แมนฯยูไนเต็ด แปลงถึง 7 ตำแหน่งจากเกมปราชัย อาร์เซน่อล ซึ่งนัดหมายนี้ใบหน้าของแนวรุกค่อนข้างจะต่างออกไปจากเดิมมากมายสาเหตุจากลักษณะของการป่วยของ อ็องโตนี่ มาร์กสิยาล และก็โซลชา อยากได้พัก มาร์คัส แรชฟอร์ด ด้วย โน่นทำให้ เมสัน กรีนวู้ด ได้ลงเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี ฆวน มาต้า ยืนเป็นกองกึ่งกลางตัวรุก ในช่วงเวลาที่ขอบเส้นฝั่งขวาเลือกใช้ดาวรุ่งอย่าง ทาฮิธ ชอง ส่วนฝั่งซ้ายเป็น แดเนี่ยล เจมส์ สิ่งที่น่าดึงดูดเป็น โซลชา ถอย อันเดรียส เปเรยร่า ไปเล่นกองกลางคู่กับ เนมานคุณย่า มาติเตียนช ซึ่งธรรมดาเจ้าตัวไม่คอ่ยได้เล่นตำแหน่งนี้มากเท่าไรนัก
"ผีแดง" สามารถครอบครองบอลบุกได้ในตอนระยะหนึ่ง แต่ว่าอุปสรรคที่มีความสำคัญเป็นเพียงพอพวกเขาเข้าพื้นที่ท้ายที่สุดชอบมีจังหวะขาดๆเกินๆอยู่เสมอแถมจังหวะจบสกอร์ทำเป็นออกจะห่วยอีกต่างหาก บางครั้งบางคราว เมสัน กรีนวู้ด บากบั่นลงต่ำเพื่อมาเชื่อมเกมกับเพื่อนฝูงร่วมกลุ่ม แต่ว่ามันทำให้แทบจะไม่มีผู้เล่นรออยู่ในกรอบจุดโทษเลย ด้านตัวรุกขอบเส้นทั้งคู่ฝั่งก็ส่งเสริมเกมรุกได้ไม่ดีเพียงพอ ส่วนสามผู้เล่นดินแดนกึ่งกลางนั้นดูเหมือนต่อกันไม่ติดเนื่องจากไม่ค่อยได้ลงเล่นด้วยกันเท่าใดนัก แถมทั้งยังสามคนยังทำตำแหน่งแท็กเกิ้ลรวมกันได้เพียงแค่ 2 ครั้งตลอดทั้งเกม ไม่ฉงนใจที่เกมนี้กลุ่มจะยิงไม่ตรงกรอบเลยสักหนึ่งครั้ง
2.แม็กแกว่งร์คืนฟอร์ม
ไม่ตรงกรอบทั้งยังเกม! 5 หลักสำคัญร้อนข้างหลังแมนยูบุกเสมอวูล์ฟส์สุดจืดชืด
แม้ดูถึงเรื่องดีของกลุ่ม "ภูติผีแดง" ในเกมนี้ก็คงเกิดเรื่องแนวรับที่เล่นออกจะรัดกุมและก็บกพร่องกันน้อยมาก ผู้ที่โชว์ฟอร์มได้สะดุดตาที่สุดน่าจะเป็น แฮร์รี่ แม็กแกว่งร์ ซึ่งทำตำแหน่งแท็กเกิ้ลไปทั้งผอง 4 ครั้ง, เอาชนะลูกในอากาศได้ 4 ครั้ง, ตัดบอล 3 ครั้ง แล้วก็สะสางบอลอีก 3 ครั้ง นับว่าเป็นสถิติเกมรับที่ออกจะหรูอย่างยิ่งจริงๆ ไม่ถูกกับเกมที่ผ่านมาซึ่งเขามีส่วนบกพร่องจนกระทั่งถูกวิจารณ์อย่างมาก แฟนผีแดงหวังจะมองเห็น แม็กแกว่งร์ โชว์ฟอร์มแบบงี้ถัดไปเรื่อยเพื่อลบข้อติเตียนที่คนจำนวนไม่น้อยพูดว่าไม่คุ้มกับค่าตอบแทนเป็นอันมากที่จ่ายไป เกมถัดไปในศึกติดอยู่ราบาว คัพ กับ แมนฯสิตี้ จะเป็นบททดลองสำคัญสำหรับเขาอีกที
3.สองจังหวะเกือบจะเปลี่ยนแปลงเกม
ไม่ตรงกรอบอีกทั้งเกม! 5 หลักสำคัญร้อนข้างหลังแมนยูบุกเสมอวูล์ฟส์สุดจืดชืด
หากแม้ทั้งคู่กลุ่มจะทำประตูกันมิได้แม้กระนั้นเกมนี้ก็มีจังหวะที่น่าดึงดูดอยู่พอเหมาะพอควร โดยจังหวะแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อเกมผ่านครึ่งชั่วโมงเมื่อ กางรนดอน วิลเลี่ยมส์ แบ็กซ้ายดาวรุ่งผีแดงพากเพียรไปแย่งบอลชิง เดนดองค์เกอร์ ทำให้มีการปะทะกระทั่งล้มลงในจุดโทษ แต่ว่าผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ มิได้เป่าเป็นจุดลูกโทษอะไร ต่อจากนั้นก็มีการเช็ควีเออาร์เพื่อความมั่นใจอีกทีโดย ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ที่อยู่ในห้องวีเออาร์ก็ยังการันตีว่าจังหวะนี้ไม่เป็นจุดลูกโทษ ซึ่งบางทีอาจจะมองคัดค้านสายตาแฟนบอลนิดหน่อย ทุกคนมีความรู้สึกว่าจังหวะนี้ต้องเป็นจุดลูกโทษหรือเปล่า?
อีกหนึ่งจังหวะสำคัญมากของเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 76 ภายหลัง วูลส์ฟ์ โหมบุกอย่างมากพวกเขาก็สามารถจ่ายบอลไปซุกตูดตาข่ายได้เสร็จจากการกระแทกระยะเผาขนของ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ แต่ถ้าว่าผู้ตัดสินเป่าไม่ให้เป็นประตูในทันทีทันใด ซึ่งจังหวะนี้พอเพียงเช็ครูปภาพที่เอามาจาก วีเออาร์ และก็ค่อนข้างจะชัดแจ้งที่การกระแทกของ โดเฮอร์ตี้ นั้นบอลดันไปโดนแขนของตนก่อนเข้าประตู โน่นทำให้ "ผีแดง" รอดการเสียประตูแบบไม่น่าเชื่อ
4.โรเมโร่โชว์ของอีกที
ไม่ตรงกรอบทั้งยังเกม! 5 ใจความสำคัญร้อนข้างหลังแมนยูบุกเสมอวูล์ฟส์สุดจืดชืด
นี่ถือว่าเป็นการลงในสนามเกมที่ 8 ของ เซร์คิโอ โรเมโร่ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเขาสามารถเก็บคลีนชีทได้ถึง 6 นัดหมายอย่างยิ่งจริงๆ เกมนี้เขามีส่วนสำคัญช่วยทำให้กลุ่มไม่เสียประตูโดยเจ้าตัวโชว์ซุปเปอร์เซฟในจังหวะที่ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ยิงตามน้ำเตียนๆในตอนครึ่งแรก เวลาที่ช่วงหลังก็มาเซฟลูกยิงของ เปโดร เนโต้ อีก ข้างหลังเกม โซลชา ถึงกับจะต้องออกมากล่าวสรรเสริญ โรเมโร่ ว่า "เขาเป็นผู้เล่นที่มีความเป็นมือโปรสูงแล้วก็เมื่อลงในสนามก็ไม่เคยทำให้พวกเราผิดหวัง การโชว์ฟอร์มที่สุดยอดเกมนี้ถือได้ว่าเป็นการบีบคั้น ดาบิด เดอา ซึ่งพวกเราปรารถนาให้เป็นแบบงั้นเนื่องจากพวกเราอยากนักฟุตบอลที่เยี่ยมที่สุดในโลกตรงนี้"
5.ไม่ตรองกรอบเลยครั้งลำดับที่สอง!
ไม่ตรงกรอบอีกทั้งเกม! 5 ใจความสำคัญร้อนข้างหลังแมนยูบุกเสมอวูล์ฟส์สุดจืดชืด
จบท้ายกันด้วยสถิติที่น่าดึงดูดจากเกมนี้ การจบสกอร์ 0-0 ทำให้ วูล์ฟส์ ทำสถิติไม่มีแพ้สำหรับเพื่อการพบกับ แมนฯยูไนเต็ด 5 เกมหลังสุดในทุกรายการ (ชนะ 2 เสมอ 3) ซึ่งสถิติการไม่มีแพ้ต่อ ผีแดง ที่ช้านานที่สุดของพวกเขาเป็น 6 ครั้งติดต่อกันโดยเกิดขึ้นเมื่อปี 1959-1962
ด้าน แมนฯยูไนเต็ด นับว่าเป็นเกมแรกจาก 14 นัดหมายสำหรับเพื่อการพบกับกองทัพ "สุนัขป่า" ที่พวกเขาไม่สามารถที่จะทำประตูได้ ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ที่ ภูติผีปีศาจแดง พ่ายแพ้ต่อ วูล์ฟส์ 1-0 นอกจากนั้นการยิงไม่ตรงกรอบเลยสักหนึ่งครั้งในเกมนี้นับว่าเป็นครั้งที่ 2 ของฤดูกาลนี้แล้ว (ทีแรกเป็นเกมเจอ อัลค์ม่าร์ ในศึกยูโรปา ลีก)